วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิธีตั้งค่า DNS GoDaddy.comให้ชี้ไปที่Blogger

-->
วิธีตั้งค่า DNS  GoDaddy.comให้ชี้ไปที่Blogger
ในการจดโดเมนผ่าน Google Apps เท่าที่ผมมีประสบการ์ณในการจดโดเมนมาหลายโดเมนนั้น  ทำให้ทราบว่าบางครั้งการตั้งค่าก็ง่ายโดยที่เราไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมายเลย  แต่บางครั้งก็ให้เราเข้าไปเซ็ทค่าโดยตรงกับผู้ให้บริการที่เราจดโดเมน ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงการจดโดเมนกับ GoDaddy.com โดยผ่าน Google Apps  เพราะโดเมนที่ผมจดมานั้นส่วนมากเวลาจดแล้วจะให้เราเข้าไปตั้งค่า เปลี่ยนเป็นการตั้งค่าขั้นสูง”  ซึ่งตอนแรกผมก็งงมากเหมือนกัน  ตั้งค่ายังไงก็ไม่ได้สักทีใช้เวลาตั้งเป็นอาทิตย์ พยายามหาข้อมูลจากเว็บต่างๆ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจตั้งผิดตั้งถูก  ตั้งแล้วรอ 48 ชั่วโมง  นี่ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เว็บที่จดโดเมนไว้ยังไม่เปลี่ยนเส้นทางเลย
ก็ได้ใช้ความพยายามอ่านทำความเข้าใจจากเว็บโน้นบ้างเว็บนี้บ้างแล้วนำมาวิเคราะห์แล้วนำมาปะติดปะต่อกัน  เนื่องจากแต่ละเว็บก็เขียนไว้นานแล้วรูปภาพและวิธีการอาจจะแตกต่างกัน (และที่สำคัญบอกไม่หมด)  และวันนี้ผมก็ได้ทำสำเร็จในการตั้งค่าDNS  GoDaddy.comให้ชี้ไปที่Blogger  ของผมเอง  ทั้งนี้ผมได้บันทึกภาพขั้นตอนการตั้งค่าไว้เตือนความจำ
1.       เมื่อเราจดโดเมนผ่าน Google Apps แล้ว จะมี mail ส่งมาให้2 ฉบับ  ใบเสร็จของใบสั่งซื้อจาก Google Apps USD 10.00 และ หนังสือแจ้งว่าคุณได้รับการจดทะเบียนกับ GoDaddy.com ให้คุณคลิกที่ url ในกรอบสี่เหลี่ยมจะเป็นเข้าสู่ระบบเพื่อจัดการ

 2.        ให้ป้อนชื่อที่จะใช้ในการ Login และรหัสผ่าน หลังจากนั้นให้ Logout ออกไปก่อนและ Login อีกครั้ง

3.       เข้าไปที่ การตั้งค่าโดเมน  และชื่อโดเมน  มองหาข้อความ การตั้งค่า DNS ขั้นสูง  เมื่อเข้าไป เราจะพบ ชื่อการเข้าระบบ รหัสผ่าน และ PIN การบริการลูกค้า ให้กดตรงข้อความ ลงชื่อเข้าสู่แผงควบคุม DNS  จะเป็นการเข้าสู่ GoDaddy.com ให้ก๊อปปี้ ชื่อการเข้าระบบ และ รหัสผ่าน ใส่ลงไปในช่อง ( ขอโทษที่ลืม scan ภาพในส่วนนี้ไว้)

4.    เมื่อเข้าไปแล้วจะเห็นชื่อโดเมนที่จดทะเบียนไว้ ก่อนจะทำขั้นตอนต่อไป ให้เข้าไปที่ลูกกุญแจเพื่อทำการปลดล็อคเสียก่อน และรอสักครู่ ให้การปลดล็อค Active หรือรูปกุญแจหายไป


5.       หลังจากนั้นให้คลิกตรงชื่อโดเมนเว็บของเรา  และเลื่อนเพจลงมาสังเกต Launch  


6.       ที่หน้า Zone File Editor  ในช่อง A Host  ให้ใส่ IP  ให้ครบตามภาพเลยโดยคลิกที่รูปดินสอ  ถ้าช่องไม่พอเพิ่มช่องที่ Quick Add  และกด Save Zone File ไปก่อนเลย

7.     เลื่อนหน้าเพจลงมาที่ CNAME  Alias ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง www   ghs.google.com (ตามภาพ) เพิ่มช่องที่ Quick Add ข้อมูลที่จะใส่ช่องนี้  ให้ดูที่หัวข้อที่ 8

8.       ให้ Login เข้าสู่ Blogger  ที่จดโดเมน  เข้าไปในส่วนของ การตั้งค่า ใส่ชื่อโดเมน กดไปที่เปลี่ยนเป็นการตั้งค่าขั้นสูง  แล้วกดบันทึกการตั้งค่า จะมีข้อความขึ้นมาเป็นสีแดง เรายังไม่สามารถยืนยันสิทธิ์ของคุณในโดเมนนี้ได้  ในเว็บไซต์ของผู้รับลงทะเบียนโดเมนให้มองหาการตั้งค่า Domain  Name System (DNS) แล้วป้อน CNAME สองรายการดังต่อไปนี้ ก็คือก๊อปปี้ข้อมูลสองรายการไปใส่ตามภาพข้อที่ 7 และกด Save Zone File  อีกครั้ง

9. กลับไปที่ Domain Detils ของ GoDaddy.com อีกครั้ง มองหาหัวข้อ Nameservers  ตรงข้อความสีฟ้าSet Nameservers ให้คลิกเข้าไปจะขึ้นป๊อปอัพตามภาพ กดตรงช่องสุดท้าย แล้วนำข้อมูล Nameservers       ไปใส่ (แต่ละเว็บอาจไม่เหมือนกัน ของคุณชื่อ Nameservers อะไรก็นำข้อมูลไปใส่ในช่องแล้วกด OK และก็ OK อีกครั้ง  เป็นเสร็จขั้นตอนการตั้งค่าที่ GoDaddy.com  แต่อย่าลืมกดล็อคโดเมนให้เรียบร้อยก่อน Logout




10. ต่อไปเป็นการเข้าไปตั้งค่าที่ Blogger   เมื่อ Login แล้ว เข้าไปในส่วนของ การตั้งค่า ใส่ชื่อโดเมนที่จดทะเบียนแต่อย่าลืมใส่ www  ข้างหน้าก่อนตามด้วยชื่อโดเมนของคุณ  และกดที่ข้อความ เปลี่ยนเป็นการตั้งค่าขั้นสูง”  บันทึก
11.      ถ้าตั้งค่าถูกต้องแล้วจะแสดงการเปลี่ยนเส้นทางดั่งภาพด้านล่าง  ถ้าโดเมนยังไม่เปลี่ยนเส้นทางอาจตั้งค่ายังไม่ถูกต้อง     หรือบางทีอาจต้องรอถึง 48 ชั่วโมง

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิธีการ Verified by Visa บัตรบีเฟิร์ส กับธนาคารกรุงเทพ

-->
วิธีการ Verified by Visa บัตรบีเฟิร์ส กับธนาคารกรุงเทพ
  พอดีวันนี้ได้ตั้งใจจะจดโดเมนเว็บที่เขียนด้วย Blogger.com  ซะหน่อย  โดยชำระเงินด้วย paypal account  แต่เนื่องจากเคยใช้บัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทยในการ Verified กับ PayPal  ไว้นานแล้ว พอดีบัตรใกล้หมดอายุ  เลยไปสมัครบัตรบีเฟิร์ส  (Be1st) ของธนาคารกรุงเทพแทน เพื่อเพิ่มบัญชีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
เลยถือโอกาสอัพเดท (Update) เว็บไปในตัว  ที่จริงแล้วหลายท่านอาจจะคิดว่าแล้วทำไมไม่ต่ออายุบัตรเดบิตใบเดิมหล่ะ...ง่ายดี  มันมีที่มาที่ไปครับ  หลังจากที่ผมได้สมัครบัญชี PayPal และได้สมัครบัตรเดบิตของธนาคารกสิกรไทย Verified กับ PayPal  ผมก็ได้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการโอนเงินเข้าบัญชีในประเทศไทย ซึ่งมีความแตกต่างกันระหว่างธนาคารกสิกรไทย กับธนาคารกรุงเทพ  ธนาคารกรุงเทพเป็นธนาคารเดียวที่มีสาขาอยู่ที่นิวยอร์ค (New York ) ประเทศสหรัฐอเมริกา และผมต้องการให้ Google Adsense ที่ผมเป็นสมาชิกเป็นผู้เผยแพร่โฆษณาอยู่  โอนเงินเข้าบัญชี PayPal  ทำให้เวลาโอนเข้าบัญชีเรานั้นง่ายขึ้น เร็วขึ้น และไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโอน
จึงขอแนะนำวิธีการ Verified PayPal ด้วยบัตรบีเฟิร์สมาบอกเล่าเผื่อมีใครสนใจและอยากทำดูบ้าง แต่ผมจะแบ่งเป็นเรื่องๆ เพื่อไม่ให้บทความยาวมากเกินไป เริ่มต้นขั้นตอนกันเลยนะครับ
ขั้นตอนการสมัครบัตรบีเฟิร์ส 
1.   อันดับแรกก็ต้องมีบัญชี PayPal ก่อน  สามารถสมัครได้ที่นี่ สมัครPayPal  รอไว้ก่อนได้เลย
                2. เปิดบัญชีกับธนาคาร ประเภทบัญชีสะสมทรัพย์  แล้วแจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าขอทำบัตรเดบิตบีเฟิร์ส  และสมัครบริการ Bualuang iBanking  เพื่อซื้อขายออนไลน์ พร้อมกับสมัครใช้บริการ OPT ทางโทรศัพท์ไปด้วยเลย  เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้เสร็จ เสียธรรมเนียมบัตรบีเฟิร์ส 300 บาท  ส่วนจะฝากเงินเข้าบัญชีเท่าไหร่ตามกำลังทรัพย์ แต่ขั้นต่ำ 500 บาท และรับบัตรได้เลย
ขั้นตอนการขอหมายเลขอ้างอิง (Reference Code)
                   เมื่อได้บัตรมาแล้ว ต้องทำการ Verified by Visa กับธนาคารกรุงเทพ ฯ ก่อน โดยโทรศัพท์ไป Verified ที่หมายเลข 1333 หรือ  +66(0)-2645-5555  (รหัสประจำตัวลูกค้า (User ID) สำหรับบริการบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง )
- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
- กด 1 ยืนยัน เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
- กดหมายเลข 16 หลัก บนบัตร Be1st
- กดรหัส  เอทีเอ็มบัตร Be1st  4 หลัก
- กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ และกด #
- กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก เดิมอีกครั้งอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน และ กด #
- นำเลขอ้างอิง 8 หลักที่ตั้งเสร็จ ไป Verified by Visa ที่เว็บไซต์ของ ธ.กรุงเทพ
การ Verified by Visa กับธนาคารกรุงเทพ
เข้าไปที่เว็บบราวน์เวอร์นี้ https://ipay.bangkokbank.com/bblenroll/bkkCard.aspx?pg=0
ใส่เลข 16 หลัก บนบัตร บีเฟิร์ส แล้วกด next


ใส่หมายเลขอ้างอิง 8 หลัก ที่ตั้งไว้ทางโทรศัพท์ กด next
สร้างรหัสผ่าน
- ข้อความอ้างอิง ตั้งอะไรก็ได้ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ชื่อตัวเองก็ดี
- ตั้งพาสเวิร์ด 6 หลักเป็นตัวเลขอย่างเดียว แล้วกรอกพาสเวิร์ดซ้ำ 2 ช่องต้องเหมือนกัน
- กรอก Email ที่ติดต่อได้สะดวก
- เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้ ระบบจะใส่ 0 ไว้ให้ ใส่เลข 8xxxxxx ต่อได้เลย


- เป็นหน้าเพจ กฎกติกา อ่านแล้วให้ติ๊ก ยอมรับ แล้วกด next


- เป็นการ Verified by Visa กับธนาคารกรุงเทพสมบูรณ์


ต่อไปเป็น    ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ Bualuang iBanking




วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จดโดเมนให้ Blogger

-->
จดโดเมนให้ Blogger
หลังจากทำเว็บด้วย  blogger  และสมัคร Google Adsense  มานานพอสมควร จนรายได้ใกล้จะครบ 100 $  กลัวถูกแบน เหมือนเพื่อนๆ ที่เขียนบล็อกที่ถูกแบนบ้าง ถูกลบบ้าง หรือถูกยึดบ้าง ผมเองก็ถูกลบไป 1 บล็อก ตอนนี้ยังกู้คืนกลับมาไม่ได้เลย บล็อกที่ทำเงินดีซะด้วยซวย...    เลยต้องตัดใจไม่ใช้ของฟรีอีกต่อไป  วันนี้จึงทำการจดโดเมนให้ blogger ซะเลย  วิธีการก็ศึกษาข้อมูลจากเว็บต่างๆที่เผยแพร่ออนไลน์อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ท  ถ้าใคสนใจก็นำไปลองทำดูบ้างก็ได้
ขั้นตอนมีดังนี้
                1. login เข้า blogger ถ้ามีหลายบล็อกก็เลือกว่าจะจดบล็อกไหนบ้าง (จะจดทั้งหมดเลยก็ได้นะ) ก็เลือกที่บล็อกนั้น  และให้ไปยังแทป การตั้งค่า และเลือก การเผยแพร่ดูรูปประกอบ จากนั้นก็กรอกโดเมนที่เราต้องการ พร้อมกับกดปุ่มเช็คดูว่าโดเมนนั้นว่างอยู่หรือไม่  

                2. หากชื่อโดเมนที่เราตั้งชื่อยังว่างอยู่ ก็จะมีข้อความ สามารถใช้ได้ปรากฏดังรูปด้านล่าง และกดปุ่มเข้าสู่การลงทะเบียน  แต่ถ้าไม่ว่าง ก็จะมีตัวเลือกว่ามีโดเมนไหนที่ใกล้เคียงและว่างอยู่ ให้ทำการเลือกไดตามใจชอบ


3. มาถึงขั้นตอนการป้อนข้อมูลลงทะเบียน ให้กรอกข้อมูลของเราลงไป ทั้งชื่อสกุล ที่อยู่ แนะนำให้กรอกเป็นภาษาอังกฤษ  ส่วนในช่องสี่เหลี่ยมให้ติ้กเครื่องหมายถูกให้หมดไปเลย คือบอกว่าเราอ่านข้อตกลงของ godaddy    ส่วนช่องที่ 2  หมายถึงจะให้ต่ออายุอัตโนมัติหรือไม่  ผมติ้กเลือกให้ต่ออายุอัตโนมัติ กดยอมรับโปรดไปที่ Google Checkout


4. เมื่อกดยอมรับโปรดไปที่ Google Checkout  เข้าสู่หน้า Google Apps  เป็นการตรวจสอบใบสั่งซื้อในการลงทะเบียนใส่ Password เข้าบัญชี  Google Checkout  และกดลงชื่อเข้าใช้ ( ตรงส่วนนี้สำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตบีเฟริซแล้วเท่านั้น  ส่วนผู้ที่ยังไม่มีสามารถดูวิธีสมัครได้ที่นี่ )

5. หลังจากนั้นให้ทำขั้นตอนต่างๆ ไปเรื่อยๆ โดยไม่ยาก จนถึงขั้นตอนสุดท้ายดูภาพด้านล่าง


เป็นอันเสร็จขั้นตอนการจดโดเมน



วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การส่งข้อมูลภาษี AdSense


การส่งข้อมูลภาษี AdSense
ขอเล่าประสบการณ์ในการทำ AdSense ของผมที่ผ่านมา  เผื่อคนที่ยังใหม่ต่อวงการ หรือยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควร  ส่วนท่านที่เป็นเซียน AdSense ทั้งหลายอ่านแล้วสามารถติชมเพื่อเป็นวิทยาทานได้นะครับ   พอดีผมทำ AdSense  ผ่าน  และยอดใกล้จะถึง $10  ได้ Login AdSense Account  เหลือบไม่เห็นแถบสีแดงด้านบน กำกับด้วยตัวอักษรภาษาไทยว่า " การชำระเงินของคุณถูกระงับไว้ชั่วคราว จำเป็นต้องดำเนินการให้ชำระเงินได้ รายละเอียดเพิ่มเติม"  ตอนแรกตกใจเหมือนกันเพราะไม่เคย ตั้งสติก่อนสตารท์และคลิกตามเข้าไปดูที่ รายละเอียดเพิ่มเติม จะพบ 3 หัวข้อเรื่องที่ให้เราต้องดำเนินการดังนี้
- โปรดส่งข้อมูลภาษีของคุณ
- โปรดเลือกหรือยืนยันรูปแบบการชำระเงิน
- โปรดใส่ PIN ของคุณ
ก็พยายามค้นหาคำตอบเกี่ยวกับ ข้อมูลภาษี  การตั้งค่ารูปแบบการชำระเงิน และPIN โดยหาข้อมูลจากเว็บ SEO บอร์ดต่างๆ บ้าง  เว็บเกี่ยวกับการทำ AdSense  บ้าง  จนได้รับความเข้าใจพอสมควร ความเป็นดังนี้  ตอนแรกที่เราสมัครผ่าน  แต่เรายังไม่สามารถตั้งค่าในส่วนนี้ได้  ต่อเมื่อเราทำยอดครบ หรือใกล้จะครบ  $10  ทาง      Google จะแจ้งที่ Account ของเรา และจะส่งไปรษณีย์บัตร แจ้ง PIN มาให้เราตามชื่อและที่อยู่ตอนที่สมัครครั้งแรก
แต่สำหรับผมยังไม่ได้รับ PIN เพราะ Google เพิ่งจะจัดส่งมา  จึงจัดการเรื่องข้อมูลภาษี และเลือกรูปแบบการชำระเงินก่อนอันดับแรกดังนี้ (พอดีคอมฯเครื่องของผมมันแปลเป็นภาษาไทยอัตโนมัติ จึงได้ข้อมูลเป็นภาษาไทย ถ้าคอมฯ ของคุณเป็นภาษาอังกฤษ ก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่)
1. หลังจาก Login เข้าระบบจะเห็นข้อความแจ้งเตือนให้คลิกที่รายละเอียดเพิ่มเติม
2. จะพบข้อความ
                - โปรดส่งข้อมูลภาษีของคุณ
                - โปรดเลือกหรือยืนยันรูปแบบการชำระเงิน
                - โปรดใส่ PIN ของคุณ
             3. การกรอกข้อมูลภาษี
ข้อมูลภาษี ถ้าไม่กรอกจะไม่ได้รับเงินจาก Google ถึงแม้จะได้ครบ 100$ แล้วก็ตาม โดยทำขั้นตอนดังต่อไปนี้
3.1 จะถามว่า เราเป็นคนอเมริกาไหม? เราทำงานที่อเมริกาหรือเปล่า? มีธุรกิจที่อเมริกาหรือ?  จะมีอยู่ประมาณ 4 5 ข้อ นี่แหละ ผมก็จำไม่ค่อยได้ เราต้องตอบว่า ไม่ หรือ NO ” ให้หมดทุกข้อ
3.2  ให้ใส่ชื่อนามสกุลเหมือนตอนสมัคร  แล้วคลิกส่งข้อมูล

                4. เลือกวิธีการรับเงิน
4.1 คลิกที่ ส่งข้อมูลของคุณทันที
4.2  เลือกวิธีการรับเช็คแบบ  จัดส่งแบบมาตรฐาน  คลิกดำเนินการต่อ
4.3 เลือกสกุลเงินเป็นบาทไทย
4.4 บันทึกการเปลี่ยนแปลง
5. เรื่อง PIN ผมกำลังรออยู่ 
สามารถเข้าไปศึกษาต่อเพิ่มเติมได้ที่เว็บ

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทำไมต้องทำ SEO ให้เว็บไซต์ Why do SEO for Site.

ทำไมต้องทำ SEO ให้เว็บไซต์  Why do SEO for  Site.
หลังจากที่เงียบหายไปนาน  ไม่ได้ไปไหนหรอกครับหลังจากสมัคร Google AdSense ผ่านไปตั้งนาน เห็นยอดจำนวนเงินของตัวเองไม่ขยับเลย เลยต้องเริ่มต้นศึกษาทำความเข้าใจกับโลกออนไลน์ Internet ให้มากขึ้น และมัวแต่ไปซุ่มทำเว็บ Blogger  เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว และเว็บเกี่ยวกับที่พัก GuestHouse and Resort in Thailand  หลังจากได้พยายามศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจ ก็ได้ปรับปรุงแก้ไขเว็บที่เขียนมาแบบเดาสุ่มให้ดีขึ้น แบบเพิ่งจะดักทางตลาด AdSense ถูกทาง  จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นเกือบจะทุกวันแม้จะไม่มากนัก แต่ก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นมา และก็คาดหวังว่าอีกไม่นานคงจะครบ 100 $  เป็นแน่แท้
จริงๆ แล้วการทำเว็บไซต์  มันมีมากกว่าเขียนเว็บไซต์มันอยู่ที่ว่าเราจะให้มันทำหน้าที่อะไร? โพสกระทู้เล่น, เขียนบทความเล่าเรื่องราวต่างๆ หรือจะให้มันทำหน้าที่หารายได้พิเศษ หรือที่เรียกกันว่า Port Time Job แต่งานออนไลน์ Internet  ถ้าจับทางดีๆ ผมว่านะ น่าจะสามารถทำเป็นงานหลักได้เลยทีเดียว แต่ถ้าเลือกอย่างแรกก็ตัดปัญหาต่างๆ ไป  ถ้าเลือกอย่างหลัง  ก็มีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ เช่น เรื่องของการทำ  SEO , Back link, Submit Article, Submit Sitemap, โปรโมทเว็บไซต์
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Search  Engine  ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Google เว็บไซต์ Search  Engine ยอดฮิต  เมื่อสมัยก่อนเราจะหาข้อมูลต่างๆ ก็ต้องพึ่งพาห้องสมุดโรงเรียนเพื่อค้นคว้าหาข้อมูล แต่ในปัจจุบันไม่ต้องแล้ว เรามีเฮีย Google ที่เวลาสงสัยอะไร?  เราก็สามารถถามเฮีย Google ได้  ทั้งรวดเร็ว และมีข้อมูลที่เราต้องการมากมาย  ทำให้ความถูกต้องของข้อมูลที่เราต้องการมีมากขึ้น  ผมเชื่อเลยว่าในชีวิตประจำวันเราต้องมีการเปิด Google ไม่น้อยกว่า 1 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เพราะ Google รู้ว่าเราต้องการอะไร พยายามที่จะรวบรวมแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลก  เพื่อตอบสนองความต้องการของเราอย่างเร็วและแม่นยำที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Google  จึงเป็น Search  Engine  อันดับ 1 ของผู้ใช้ Internet
                ผมเคยสงสัยว่าทำไม? เว็บที่ผมเขียนไว้ถึงหาไม่เจอ พยายามเปิดเว็บเพ็จที่ 1 - 40  ก็แล้ว  เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วผู้คนเขาจะเข้ามาดูชมเว็บเราได้อย่างไร  แล้วจะทำการตลาดอย่างไรต่อไป  จึงทำให้ผมต้องถอยหลังกลับไปตั้งต้นใหม่  และนี่คือที่มาของ  ทำไมต้องทำ SEO ให้เว็บไซต์  Why do SEO for  Site. สรุป มีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
ทำไมต้องทำ SEO ให้เว็บไซต์ (Search Engine Optimization)
1. วิเคราะห์การแข่งขัน โดยดูจาก การค้นหา คีย์เวิร์ดของเราเทียบกะคู่แข่ง
2. เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
3. ปรับแต่งเนื้อหาภายในเว็บ
4. เขียนเนื้อหาให้ตรงกับ อัลกอริธึม (Algorithm) ของแต่ละ Search Engine
5. การออกแบบเว็บให้ Search Engine เข้าถึงได้สะดวก
6. การลงทะเบียนกับ Search Engine เว็บต่างๆ
7. การสร้างลิงค์ให้กับเว็บไซต์ ในเว็บเรา และเว็บอื่นๆ
8. ติดตามประมวลผล การเลื่อนลำดับ  เวลาค้นจาก Search Engine แต่ละที่